ในสถานการณ์ปัจจุบัน Covid-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย จากการสำรวจ(สำรวจมากจาโพลไหนบอกด้วย)พบผู้ติดเชื้อล่าสุด(22 สิงหาคม 2021) และผู้ติดเชื้อสะสมมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน จากสถิติและตัวเลขผู้ติดเชื้อจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ จะเห็นได้ว่า วัคซีน จะเป็นหนทางที่นำไปสู่การยับยั้งโรคระบาดและยังเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญเป็นอย่างมากและในสถานการณ์ปัจจุบัน วัคซีนทางเลือกที่มีอยู่หลายยี่ห้อมักจะมีข้อดี-และข้อเสียแตกต่างกันออกไป ประเด็นที่สำคัญในBlog นี้ผมจะขอหยิบยกวัคซีนที่กำลังได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการอยุ่ในขณะนี้ จัดลำดับรองถัดมาจากวัคซีนค่ายไฟเซอร์
วัคซีนโมเดอร์นาคืออะไร?
วัคซีนโมเดอร์นาคือวัคซีนที่ผลิตโดย บริษัทโมเดอร์นา (ModernaTX, Inc.) ร่วมกับ สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) ด้วยวิธีการ mRNA มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ mRNA-1273
กว่าจะได้มาเป็นวัคซีน Moderna ต้องผ่านทดสอบทั้งหมดเท่าไร?
วัคซีน Modeerna(mRNA-1273) ได้รับการพัฒนาและทดลองจากตัวอยางทั้งหมด 30,420 เคส จากตัวอย่างตั้งแต่อายุ 18-65 ปี และคนที่อายุมากกว่า 65 ปี รวมทั้งผู้ที่มีความเสี่ยงทางด้านสุขภาพทั้งผู้หญิงและผู้ชาย พวกเขาใช้เวลาทดลองทั้งหมด 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ก 27 กรกฎาคม 2020 ถึง 23 ตุลาคม 2020
ทำไมต้องเป็น Moderna(mRNA-1273)?
1. ประสิทธิภาพในการป้องกัน Covi-19 ของ Moderna ในสายพันธุ์ปกติสูงถึง 94% และสามารถกันตายได้ 100%
2. ยังมีผลกับสายพันธุ์ Alpha(B.1.1.7) ป้องกันการติดเชื้อในโดสแรกอยู่ที่ 88.1% และในสัปดาห์ที่สอง ฉีดโดส 2 มีประสิทธิภาพอยู่ที่ 100%
3. สำหรับสายพันธุ์ Delta(B.1.351) ป้องกันการติดเชื้อได้ 95% หลังฉีดโดสแรกและหลังฉีดโดสสองมีการป้องกันได้ 96.4%
นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดจากสองสายพันธุ์(Delta และ alpha) อยู่ที่ 81.6 และ 95.7% สำหรับผู้ฉีดครบสองโดส
การฉีดควรจะฉีดห่างกันเท่าไร?
วัคซีน Moderna(mRNA-1273) เป็นวัคซีนที่ต้องฉีด 2 เข็มที่กล้ามเนื้อ มีคำแนะนำให้ฉีดห่างกัน ประมาณ 28 – 42 วัน หรือ 4 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นกับแพทย์จะประเมินสถานการณ์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ จากวัคซีน Moderna- มีอาการหนาวสั่น หรือเป็นไข้
- รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย
- ปวดหัว
- ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ
- คลื่นไส้
ทั้งนี้อาการดังกล่าวจากแพทย์สังเกตุจะพบว่าเกิดขึ้น 1 - 2 วันแล้วจะหายไปตามปกติ
รายงานอาการบ่งชี้ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
จากรายงานในศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) พบว่าผู้ฉีดวัคซีน mRNA ไม่ว่าจะเป็น Pfizer หรือ Moderna พบว่า บางรายมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเยือหุ้มหัวใจอักเสบ แต่อาการไม่รุนแรง และเกิดขึ้นน้อยมาก เพียง 12.6 ราย / 1 ล้านโดส เป็นตัวเลขที่น้อยมาก โดยอาการคือผู้ป่วยอาจจะมีการเมื่อยล้าและเจ็บหน้าอกชนิดไม่รุนแง และเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกภาวะอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเท่านั้น แน่นอนว่าส่วนใหญ่กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
วัคซีน Moderna เหมาะสมกับใคร?
วัคซีน Moderna เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ดีขณะนี้กำลังมีการศึกษาข้อมูลวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 12-18 ปีอยู่เช่นกัน แต่ยังไม่ได้มีรายงานผลอย่างเป็นทางการ
หากฉีด AztraZeneca หรือ Sinopharm จะสามารถ Boot ด้วย Moderna ได้หรือไม่?
จากรายงานทางการแพทย์ มีการแนะนำออกมาว่า หากผู้ฉีดครบทั้ง 2 เข็มในวัคซีนดังกล่าวแล้ว สามารถบู๊ตการฉีด Moderna ได้ 1 เข็ม โดยระยะเวลาของ AztraZeneca ควรจะห่างกัน 6 เดือนและ Sinopharm 3 เดือน
แล้วหาก AZ เข็ม 1 หรือ Sinopharm เข็ม 1 สามารถฉีดไข้ว Moderna ได้หรือไม่
จากข้อมูลรายงานการทดสอง มีการฉีด AZ ไขว้กับ Moderna ในเข็มสองที่เยอรมันนี ซึ่งผลพบว่าได้ผลดีกว่าฉีด Aztrazeneca สองโดส อย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการสรุปผลแน่นอนว่าทุกๆคน ควรฉีดไข้วนะครับ
สำหรับ Sinopharm ยังไม่ได้มีการทดลอง mix Sinoharm กับ Moderna ที่ไหนนะครับ
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมผมจะพยายามอัพเดตครับ
ขอขอบคุณ
https://www.praram9.com/moderna-vaccine/
https://cdn.who.int/media/docs/default-source/immunization/covid-19/21054_moderna-vaccine-explainer_24-02-21.pdf?sfvrsn=a8c8700e_5&download=true
https://www.nature.com/articles/s41591-021-01446-y
https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%99-moderna
COVID: Are mix-and-match vaccines the way forward? | Science | In-depth reporting on science and technology | DW | 27.07.2021
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น